เวียดนาม สั่งคุมเข้มด้วยการออกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และสั่งปูพรมตรวจหาเชื้อประชาชนทั่ว โฮจิมินห์ หลังเจอผู้ป่วย โควิด ใหม่ เมื่อวันที่ 31 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการเวียดนามสั่งตรวจหาโรคโควิดประชาชนที่อาศัยอยู่ในนครโฮจิมินห์ทั้งเมือง พร้อมสั่งใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังจากที่ทางการเวียดนามพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 125 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับพิธีทางศาสนาคริสต์ที่ศาสนสถานแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์
โดยทางการเวียดนามจะตรวจหาเชื้อประชาชนวันละ แสนราย
อย่างไรก็ตามสำนักข่าว BBC ระบุว่านครโฮจิมินห์มีประชากรกว่า 13 ล้านคน ซึ่งหากตรวจหาเชื้อด้วยจำนวนดังกล่าวจริง จะต้องใช้เวลานานกว่า 3-4 เดือน ถึงจะสามารถตรวจหาเชื้อประชาชนได้ครบ
นอกจากนี้ทางการเวียดนามยังสั่งให้ร้านค้าและร้านอาหารปิดให้บริการชั่วคราว พร้อมสั่งห้ามไม่ให้มีการทำกิจกรรมทางศาสนา ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม และจะใช้มาตรการดังกล่าวเป็นระยะเวลา 15 วัน
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ทางการได้แสดงความกังวลพร้อมเตือนว่ามีการค้นพบโควิดแบบ “ลูกผสม” เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งโควิดชนิดนี้เป็นการผสมกันระหว่างสายพันธุ์อินเดียและสายพันธุ์อังกฤษ และสามารถแพร่เชื้อทางอากาศได้ง่ายโควิดทั่วๆไป
ประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศที่ได้รับคำชมถึงมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด นับตั้งแต่ไวรัสเริ่มแพร่เชื่อขึ้นที่ประเทศจีน อย่างไรก็ตามในขณะนี้ประเทศเวียดนามกำลังเผชิญกับความกดดันถึงความล่าช้าในการฉีดวัคซีนประชาชน
โดยมีประชาชนในเวียดนามเพียงแค่ 1 ล้านคน หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับวัคซีนต้านโควิดในประเทศเวียดนาม
จีน อนุญาตประชาชนสามารถมี ลูกสามคน เร่งแก้ปัญหาจำนวนประชากรเกิดใหม่ที่น้อยที่สุดในรอบหลายสิบปี แทนที่นโยบายเก่าที่มีลูกได้สองคน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย สีจิ้นผิง ผู้นำจีนได้อนุญาตให้ครอบครัวสามารถมีบุตรได้สามคน หลังจากที่สำมะโนประชากรที่เผยแพร่ที่ถูกเผยแพร่ทุกๆสิบปี พบว่าในช่วงทตศวรรษที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของประชากรลดต่ำสุดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
ซึ่งนอกจากทางการจีนจะอนุญาตให้มีบุตรมากถึงสามคนแล้ว ทางการจีนจะมีมาตรการช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อหวังเพิ่มจำนวนประชากรเกิดใหม่ในช่วงหลายปีถัดจากนี้
โดยการออกมาตรการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะส่งผลให้มีประชาชนในช่วงวัยชรามากกว่ากลุ่มคนหนุ่มสาวและทำให้แรงงานไม่เพียงพอในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมยังส่งผลให้ความต้องการด้านสาธารณสุขเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการจีนปรับนโยบายดังกล่าว เพราะหากย้อนกลับไปที่ปี 2559 ทางการจีนได้ยกเลิกกฎหมายบังคับให้ครอบครัวจีนห้ามมีลูกเกินกว่าหนึ่งคน และอนุญาตให้แต่ครัวเรือนมีลูกได้ไม่เกินสองคน อย่างไรก็ตามนโยบายดังกล่าวใช้ไม่ได้ผลในระยะยาว
ขณะเดียวกันผู้ใช้อินเตอร์เน็ตได้แสดงความเห็นคิดต่อนโยบายดังกล่าวว่า “พวกเราสามารถมีลูกได้สูงสุดถึงสามคน แต่ปัญหาคือพวกเราไม่อยากมีลูกเลยด้วยซ้ำ” ขณะที่ประชาชนชาวจีนคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า เธออยากใช้ชีวิตของเธอ โดยไม่จำเป็นต้องห่วงถึงบุตรหลานของเธอ
จีน ซัด สหรัฐฯ หลัง ‘ไบเดน’ สั่งสืบ ต้นตอโควิด
ทางการ จีน โต้ตอบทางการ สหรัฐฯ หลังจากที่ นาย โจ ไบเดน สั่งให้มีการสืบหา ต้นตอโควิด อีกครั้ง จีนชี้สหรัฐฯต้องการโบ้ยความผิด เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศของจีนได้ออกโต้ตอบประเทศสหรัฐอเมริกาว่า “เป็นการบิดเบือนทางการเมืองและโบ้ยความผิดไปยังผู้อื่น” หลังจากที่นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งให้หน่วยข่าวกรองสืบหาต้นตอโควิด และรายงานตนใน 90 วัน
โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลจีนระบุว่าทางการสหรัฐฯ ไม่ได้มีความสนใจถึงข้อเท็จจริงหรือข้อพิสูจน์ที่อ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ พร้อมชี้ว่าเป้าหมายของการค้นหาต้นตอโควิดของนาย ไบเดน เป็นการบิดเบือนทางการเมืองและโบ้ยความผิดไปยังผู้อื่น พร้อมระบุว่าเป็นการดูหมิ่นวิทยาศาสตร์อีกด้วย
นอกจากนี้ยังได้กล่าวโจมตีหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯด้วยว่ามีประวัติมืดในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง
นาย โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯได้สั่งให้มีการค้นหาจุดเริ่มต้นของการแพร่เชื้ออีกครั้ง และตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเชื้อไวรัสเกิดขึ้นจากการที่มนุษย์สัมผัสกับสัตว์ติดเชื้อหรือการแพร่ระบาดออกจากห้องทดลอง ซึ่งนายไบเดนกล่าวว่าจะมีการเปิดเผยรายงานดังกล่าวเมื่อการศึกษาเสร็จสิ้น เว้นเสียแต่จะมีข้อมูลอื่นๆที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง